การสั่นสะเทือนของเครื่องจักร คือหนึ่งในสัญญาณเตือนที่สำคัญที่สุดของความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในระบบเครื่องกล ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก หากมองข้ามปัญหาการสั่นสะเทือน อาจนำไปสู่ความเสียหายของอุปกรณ์ ต้นทุนซ่อมที่สูง และการหยุดชะงักของกระบวนการผลิตที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ด้วยเพราะเครื่องจักรที่ทำงานในโรงงาน มันมีอายุการใช้งานของมัน เมื่อถึงเวลามันก็เริ่มจะเสื่อมสภาพไปเรื่อย ๆ จนไปถึงเกิดอาการใช้งานไม่ได้ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “พัง” นั่นเอง การพังไม่ใช่เรื่องดี เพราะเท่ากับว่า โรงงานไม่สามารถผลิตสินค้าได้ และเรื่องแย่ต่างๆก็จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น
- ขายของไม่ได้
- เงินไม่เข้าบริษัท
- หัวหน้าและลูกค้าด่า (หลาย ๆ คน คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้แน่นอน)
- ฯลฯ
ทำไมต้องเข้าใจสาเหตุของแรงสั่นสะเทือนในเครื่องจักร?


ในระบบการผลิต เครื่องจักรทำงานตลอดเวลาเพื่อสร้างผลผลิต แต่แรงสั่นสะเทือนที่ผิดปกติอาจเป็นสาเหตุเบื้องต้นของปัญหาใหญ่ เช่น
- แบริ่งเสียหายเร็วกว่าปกติ
- เพลาหลวม หรือเกิดการ Unbalance
- ขันน็อตไม่แน่น หรือมีความคลาดเคลื่อนจากการตั้งศูนย์เพลา (Misalignment)
หากไม่มีการวัดและวิเคราะห์สาเหตุเหล่านี้ด้วย การวัดการสั่นสะเทือนของเครื่องมือ ที่เหมาะสม เครื่องจักรอาจหยุดทำงานกะทันหัน ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการผลิตและความน่าเชื่อถือของโรงงานในระยะยาว
Preventive Maintenance ยังไม่พอ
การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (PM) แม้จะเป็นแนวทางที่ดี แต่ก็อาจนำไปสู่การซ่อมบำรุงโดยไม่จำเป็น ซึ่งนอกจากจะทำให้ต้องหยุดการผลิตชั่วคราวแล้ว ยังส่งผลให้เสียต้นทุนเวลาและทรัพยากรโดยไม่จำเป็น
Predictive Maintenance คือคำตอบ
การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance หรือ PdM) คือการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลจริงของเครื่องจักร เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่าน การวัดการสั่นสะเทือนของเครื่องมือ เฉพาะทาง เช่น Vibration Meter ซึ่งทำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ก่อนที่เครื่องจักรจะเสียหายรุนแรง
หนึ่งในชุดเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์แรงสั่นสะเทือน ได้แก่
Spectrum Analysis (การวิเคราะห์ความถี่)
Spectrum Analysis คือการแปลงสัญญาณการสั่นสะเทือนจากรูปคลื่นเวลา (Time Domain) มาเป็นรูปคลื่นความถี่ (Frequency Domain) ผ่านกระบวนการ FFT (Fast Fourier Transform) เพื่อดูว่าแรงสั่นที่เกิดขึ้นนั้นมีความถี่เท่าไร และสัมพันธ์กับพฤติกรรมของชิ้นส่วนเครื่องจักรใด
วิธีทำ:
- ใช้เซนเซอร์วัดการสั่นสะเทือนติดที่จุดต่าง ๆ ของเครื่องจักร
- เครื่องวัดจะบันทึกสัญญาณแล้วประมวลผลเป็นกราฟความถี่
- วิเคราะห์ค่าความถี่ที่เกิดขึ้น เช่น ความถี่ที่สัมพันธ์กับรอบการหมุนของเพลา, แบริ่ง หรือเฟือง
ประโยชน์:
- ช่วยแยกแยะได้ว่าปัญหามาจาก “อะไร” เช่น Unbalance (ความไม่สมดุล), Misalignment (การเยื้องศูนย์), หรือ Bearing Fault (แบริ่งเสียหาย)
- ระบุจุดเริ่มต้นของความเสียหายก่อนที่อาการจะชัดเจน
- ช่วยวางแผนการซ่อมบำรุงเฉพาะจุด ลดต้นทุนและระยะเวลาหยุดเครื่อง
Time Waveform (การวิเคราะห์รูปคลื่นตามเวลา)
Time Waveform คือการบันทึกรูปแบบของแรงสั่นสะเทือนตามเวลาจริง เพื่อดูความผิดปกติที่อาจไม่ปรากฏในกราฟความถี่ เช่น การกระแทกเป็นจังหวะ หรือแรงสั่นที่เกิดขึ้นเฉพาะบางช่วง
วิธีทำ:
- วัดการสั่นสะเทือนด้วย Accelerometer
- บันทึกข้อมูลสัญญาณดิบที่ยังไม่ได้แปลง
- วิเคราะห์ลักษณะของคลื่น เช่น ความแหลมของยอดคลื่น (Peak), ความถี่ซ้ำๆ หรือความไม่ต่อเนื่องในรูปคลื่น
ประโยชน์:
- เหมาะสำหรับตรวจจับแรงกระแทกเฉียบพลัน เช่น แบริ่งแตกร้าว
- วิเคราะห์ปัญหาในช่วงเริ่มต้นของความเสียหายที่ยังไม่ปรากฏใน Frequency Spectrum
- ให้ข้อมูลดิบที่ใช้ประกอบการวินิจฉัยเชิงลึกได้ดียิ่งขึ้น
FASIT (Fault Source Identification Tool)
FASIT คือเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ต้นเหตุของความผิดปกติจากข้อมูลแรงสั่นสะเทือนโดยอัตโนมัติ ด้วยระบบฐานข้อมูลที่รวบรวมรูปแบบของความเสียหายจากประสบการณ์จริงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
วิธีทำ:
- บันทึกข้อมูลสั่นสะเทือน
- ระบบจะเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของ FASIT
- แสดงผลว่าอาการสั่นที่วัดได้ตรงกับความเสียหายประเภทใด เช่น Loose Component, Gear Fault, Rotor Unbalance เป็นต้น
ประโยชน์:
- วิเคราะห์ปัญหาได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว แม้ผู้ใช้ไม่มีประสบการณ์วิเคราะห์
- ลดความผิดพลาดจากการแปลผลข้อมูลด้วยตนเอง
- เหมาะสำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรจำนวนมาก และต้องการวิเคราะห์ได้อย่างเป็นระบบ
การใช้ เครื่องมือวัดการสั่นสะเทือนของเครื่องจักร ที่มาพร้อมฟังก์ชันวิเคราะห์อย่าง Spectrum Analysis, Time Waveform และ FASIT จะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาได้ลึกถึงต้นตอ พร้อมวางแผนบำรุงรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ วิธีป้องกันการสั่นสะเทือนในเครื่องจักร อย่างแท้จริง
เพราะการป้องกันที่ดี ไม่ใช่แค่ซ่อมให้ทัน แต่ต้อง รู้ก่อนเสีย และวางแผนให้ถูกต้อง
— เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้เต็มกำลัง ไม่สะดุด และคุ้มค่าทุกวินาทีในการผลิต —
วิธีป้องกันการสั่นสะเทือนในเครื่องจักรที่ผู้บริหารควรรู้
แรงสั่นสะเทือนของเครื่องจักร ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ปกติเป็นสาเหตุสำคัญของความเสียหายเรื้อรังในระบบการผลิต ซึ่งหากมองข้ามอาจนำไปสู่ต้นทุนแฝงที่สูงโดยไม่รู้ตัว ผู้บริหารจึงควรเข้าใจวิธีการป้องกันแรงสั่นสะเทือนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อวางกลยุทธ์ที่คุ้มค่าและยั่งยืน
1. วางแผนตรวจสอบตามรอบเวลาที่เหมาะสม
การจัดทำแผนตรวจสอบแรงสั่นสะเทือนอย่างมีระบบ (Periodic Vibration Monitoring) ช่วยให้สามารถระบุสัญญาณความเสียหายได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เช่น ความคลอนของชิ้นส่วน, ความไม่สมดุล หรือการสึกหรอของแบริ่ง
ดีต่อต้นทุนและบริษัทอย่างไร:
- ลดโอกาสการเสียหายรุนแรงที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ทั้งระบบ
- วางแผนหยุดซ่อมได้ล่วงหน้า ลดผลกระทบต่อสายการผลิต
- เพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องจักร ช่วยควบคุม CapEx และ OpEx
2. ใช้อุปกรณ์วัดแรงสั่นสะเทือนที่ได้มาตรฐาน
เครื่องมือวัดแรงสั่นสะเทือนที่แม่นยำ เช่น Vibration Meter ที่มีฟังก์ชัน Spectrum Analysis หรือ Time Waveform สามารถวินิจฉัยต้นตอของปัญหาได้ชัดเจน ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ผิดพลาด
ดีต่อต้นทุนและบริษัทอย่างไร:
- วิเคราะห์ปัญหาได้รวดเร็ว ลดเวลา Downtime
- ป้องกันการซ่อมเกินความจำเป็น (Over-Maintenance)
- ส่งเสริมการวางแผนบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance)
3. ตั้งศูนย์เพลา (Alignment) อย่างแม่นยำ
การตั้งศูนย์เพลาที่ไม่แม่นยำเป็นต้นเหตุของแรงบิดและแรงเค้นที่นำไปสู่ความเสียหายสะสม เช่น เพลางอ แบริ่งแตก หรือซีลรั่ว
> อ่านบทความ คลิก : เครื่องตั้งศูนย์เพลา: ปรับ Alignment เครื่องจักรอย่างแม่นยำ เพื่อยืดอายุและลดต้นทุน
ดีต่อต้นทุนและบริษัทอย่างไร:
- ลดความถี่ในการเปลี่ยนอะไหล่หรือซ่อมใหญ่
- ป้องกันการหยุดเครื่องไม่คาดคิด (Unexpected Downtime)
- ลดพลังงานสูญเสียจากการหมุนไม่สมดุล ทำให้ใช้ไฟฟ้าน้อยลง
4. ดูแลรักษาแบริ่งและเพลาสม่ำเสมอ
แบริ่งคือชิ้นส่วนที่รับแรงจากการหมุน หากขาดการหล่อลื่นหรือบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม จะเร่งการสึกหรอและเกิดการสั่นสะเทือนผิดปกติ
> อ่านบทความ คลิก : เครื่องบาลานซ์ คืออะไร? ทำไม “การบาลานซ์ชิ้นงาน” ถึงสำคัญกับโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่าที่คิด
ดีต่อต้นทุนและบริษัทอย่างไร:
- ยืดอายุการใช้งานของเพลาและแบริ่ง ลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร
- ลดความเสี่ยงจากการหยุดผลิตกะทันหัน
5. ติดตามแนวโน้มข้อมูลสั่นสะเทือนในระยะยาว
การเก็บบันทึกข้อมูลแรงสั่นสะเทือนเป็นระยะและวิเคราะห์แนวโน้ม จะช่วยให้มองเห็น Pattern ของความเสื่อมสภาพ ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น
ดีต่อต้นทุนและบริษัทอย่างไร:
- ทำให้สามารถเปลี่ยนจาก Maintenance แบบเชิงรับ (Reactive) เป็นเชิงรุก (Proactive)
- วางแผนลงทุนซ่อมบำรุงตามข้อมูลจริง (Data-Driven Decision)
- ป้องกันความสูญเสียซ้ำซ้อนในระบบ Supply Chain และความพึงพอใจของลูกค้า
บริหารความเสี่ยงจากแรงสั่นสะเทือน เริ่มต้นที่การวางระบบที่ดี
เพียงลงทุนด้านการตรวจสอบและป้องกันแรงสั่นสะเทือนของเครื่องจักรอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันนี้ คุณจะสามารถลดต้นทุนได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมยกระดับมาตรฐานการผลิตให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
ADASH เครื่องมือ ที่ทำการ วัดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องจักร ได้ดี
ADASH แบรนด์เครื่องวัดความสั่นสะเทือน หรือ Vibrations meter จากประเทศสาธารณรัฐเช็ก( Czech Republic )มีชื่อเสียงในด้านความแม่นยำ ความเสถียร และความหลากหลายของฟังก์ชันการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบเครื่องจักรในสายการผลิต หรืองานวิเคราะห์เฉพาะทางในโรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน หรือโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในวงการซ่อมแซมเครื่องจักรและมอเตอร์










4 เหตุผลที่ควรเลือกใช้ ADASH จากบริษัท มัทนีภัณฑ์ จำกัด
ความแม่นยำสูง วิเคราะห์ได้ตรงจุด
ลดความผิดพลาดในการประเมิน และช่วยให้ตัดสินใจซ่อมแซมได้อย่างมั่นใจมีหลายรุ่นให้เลือก ใช้งานได้ตรงกับลักษณะเครื่องจักร
รองรับทั้งงานตรวจสอบพื้นฐานและการวิเคราะห์เชิงลึกอะไหล่พร้อม บริการครบทุกชิ้น
หมดกังวลเรื่อง downtime เพราะสามารถซ่อมแซมและเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ทันทีบริการหลังการขายจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย
ให้คำปรึกษาและอบรมการใช้งานโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
เพราะทุกวินาทีของการผลิตคือ “ต้นทุน”
การตรวจสอบแรงสั่นสะเทือนอย่างสม่ำเสมอ คือหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งาน ลดความเสี่ยงในการหยุดผลิตโดยไม่คาดคิด และเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว
การสั่นสะเทือนของเครื่องจักร ไม่ใช่เรื่องเล็ก และการเข้าใจถึงสาเหตุ รวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์วัดที่แม่นยำ คือหัวใจของการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พร้อมลดความเสี่ยงและต้นทุนที่ไม่จำเป็น การเริ่มต้นจากการวัดและวิเคราะห์แรงสั่นสะเทือน คือก้าวแรกที่ชาญฉลาด
หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีป้องกันการสั่นสะเทือนในเครื่องจักร หรือสนใจเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนคุณภาพสูงอย่าง ADASH สามารถติดต่อ บริษัท มัทนีภัณฑ์ จำกัด ได้ทันที ทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการทุกขั้นตอน
สนใจดูสินค้าหมวด เครื่องมือวัดแรงสั่นสะเทือน : VIBRATION ANALYZERS & CONDITION MONITORING
CONTACT US
- Opening Hours: Mon-Fri: 8am – 7pm
- Call Us: 0613863344 / 0982769511
- Email Us: mtp@mtppro.com
- LINE ADD: https://lin.ee/vDX2Omh
- FACEBOOK : https://www.facebook.com/mtppro2006
- YOUTUBE : https://www.youtube.com/@mataneepan251
- TIKTOK : https://www.tiktok.com/@mataneepan